musées
Musées
Musée du Louvre
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ Musée du Louvre หรือในชื่อทางการว่า the Grand Louvre เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะตั้งอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมได้เมื่อปี พ.ศ. 2336 (ค.ศ. 1793) มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์กาเปเซียง ตัวอาคารเดิมเคยเป็นพระราชวังหลวง ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่ที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็นจำนวนมากกว่า 35,000 ชิ้น จากตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงศตวรรษที่ 19 อย่างเช่น ภาพเขียนโมนาลิซา, The Virgin and Child with St. Anne, Madonna of the Rocks ผลงานของเลโอนาร์โด ดาวินชี หรือภาพ Venus de Milo ของอเล็กซานดรอสแห่งแอนทีออก ในปี พ.ศ. 2549 พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์มีผู้มาเยี่ยมชมเป็นจำนวน 8.3 ล้านคน ทำให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในโลก และยังเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในกรุงปารีสพีระมิดแก้วของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ออกแบบโดย ไอ. เอ็ม. เป สถาปนิกชาวจีน-อเมริกัน ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อปีค.ศ.1988 โดยเป็นหนึ่งในโครงการที่ริเริ่มของประธานาธิบดีฟร็องซัว มีแตร็อง เพื่อใช้สอยเป็นทางเข้าหลักของพิพิธภัณฑ์ โดยผู้เข้าชมจะต้องเข้าผ่านล็อบบี้ใต้ดิน ที่อยู่ใต้ฐานพีระมิด โดยโครงการถัดไปคือพีระมิดกลับหัว หรือ La Pyramide Inversée ซึ่งเป็นพีระมิดแก้วเช่นเดียวกัน ที่สามารถมองเห็นได้จากใต้ดิน โดยฐานพีระมิดจะอยู่บนพื้นผิวระดับถนน ซึ่งโครงการนี้เสร็จสมบูรณ์ในปีค.ศ.1993
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ถือเป็นหน่วยงานของรัฐบาลฝรั่งเศส โดยตั้งแต่ปีค.ศ.2003 ได้มีความพยายามทำการแปรรูปขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีการปรับลดงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลจาก 75% เหลือเพียง 62% ในปีค.ศ.2006 โดยภาพยนตร์ชื่อดังจากนวนิยายเรื่อง ดาวินชี่โค้ด ของแดน บราวน์ พิพิภัณฑ์ได้รับเงินสนับสนุนค่าพื้นที่การถ่ายทำถึง 2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และในปีค.ศ.2008 รัฐบาลฝรั่งเศสได้สนันสนุนงบประมาณทั้งหมด 180 ล้านเหรียญฯ จากงบประมาณที่ต้องการทั้งหมด 350 ล้านเหรียญฯ โดยส่วนต่างที่เหลือมาจากเงินบริจาค และค่าเข้าชม
Musée d'Orsay
พิพิธภัณฑ์ออร์แซ Musée d'Orsay เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ พิพิธภัณฑ์การออกแบบ/สิ่งทอ และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ในกรุงปารีสในประเทศฝรั่งเศส พิพิธภัณฑ์ออร์แซก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1986 บนฝั่งซ้ายแม่น้ำเซนในสถานที่ที่เดิม เคยเป็นสถานีรถไฟออร์แซ ที่สร้างในแบบสถาปัตยกรรมแบบโบซาร์โดยสถานีรถไฟแห่งนี้ถูกสร้างระหว่างปี ค.ศ. 1898 ถึง ค.ศ. 1900 เพื่อให้เสร็จทันงาน Exposition Universelle เพื่อใช้เป็นชุมทางรถไฟสายตะวันตกเฉียงใต้ จนถึงปีค.ศ. 1939 ได้เลิกกิจการเนื่องจากขนาดของชานชลาไม่กว้างพอสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางจำนวนมาก สถานีรถไฟออร์แซ จึงลดความสำคัญลงเป็นสถานีรถไฟสำหรับเดินทางในระยะใกล้ ในปัจจุบันใต้ดินส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ยังคงใช้เป็นสถานีรถไฟชานเมืองด่วนพิเศษ หรือ RER โดยใช้ชื่อสถานีเดียวกันในปีค.ศ. 1970 ในขณะที่กำลังจะมีการรื้อถอนสถานีออร์แซ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้โต้แย้งโดยเสนอให้ปรับปรุงเป็นโรงแรมขึ้นแทน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอาคารที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ในปีค.ศ.1978 และภายหลังได้มีการเสนอแผนการปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อผสานความแตกต่างระหว่างสองพิพิธภัณฑ์หลักในขณะนั้น คือ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์กับพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ ที่ตั้งอยู่ที่ศูนย์ฌอร์ฌ ปงปีดู โดยได้รับการสนับสนุนโดยประธานาธิบดีฌอร์ฌ ปงปีดู ในปีค.ศ. 1978 ทีมสถาปนิกผู้ชนะการแข่งขันเพื่อการออกแบบพิพิธภัณฑ์ได้รับการอนุญาตอย่างเป็นทางการโดยปรับพื้นที่แสดงผลงานบนพื้นที่ 4 ชั้น รวมกว่า 20,000 ตารางเมตร และสถาปนิกชาวอิตาลี นายกาเอ โอเลนตี ได้รับเลือกเพื่อรับผิดชอบการตกแต่งภายใน ซึ่งรวมถึงการจัดสรรพื้นที่แสดงผลงาน การตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์ เพื่อใช้ในพิพิธภัณฑ์ และได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม ปีค.ศ. 1986 โดยประธานาธิบดีฟร็องซัว มีแตร็อง พร้อมกับภาพเขียนกว่า 2,000 ชิ้น รูปปั้นและประติมากรรมกว่า 600 ชิ้น
งานสะสมของพิพิธภัณฑ์ออร์แซเป็นศิลปะฝรั่งเศสที่สร้างระหว่างปี ค.ศ. 1848 ถึง ค.ศ. 1915 ที่รวมทั้งจิตรกรรม ประติมากรรม เฟอร์นิเจอร์ และภาพถ่าย แต่ที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดคืองานชิ้นเอกจากลัทธิประทับใจและลัทธิประทับใจยุคหลัง ซึ่งได้แก่งานของโกลด มอแน, เอดัวร์ มาแน, แอดการ์ เดอกา, ปีแยร์-โอกุสต์ เรอนัวร์, ปอล เซซาน, ฌอร์ฌ-ปีแยร์ เซอรา, ปอล โกแก็ง และฟินเซนต์ ฟัน โคค เป็นต้น
Centre national d'art et de culture Georges-Pompidou
อาคารประกอบด้วยหลายส่วน ได้แก่ ห้องสมุดสารสนเทศสาธารณะ Bibliothèque publique d'information ซึ่งเป็นห้องสมุดสาธารณะขนาดใหญ่, พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่แห่งชาติ Musée National d'Art Moderne เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และในส่วนสุดท้ายคือ สถาบันการวิจัยและความร่วมมือทางเสียง/ดนตรี (IRCAM) ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยด้านเสียงและด้านดนตรี พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เดิมเป็นที่รู้จักในชื่อ "โบบูร์" ด้วยสาเหตุมาจากที่ตั้งของสถานที่ ส่วนในชื่อปัจจุบันมาจากชื่อของฌอร์ฌ ปงปีดู ประธานาธิบดีฝรั่งเศสคนที่ 2 (ระหว่างปี ค.ศ. 1969-1974) ผู้ริเริ่มให้สร้างอาคารแห่งนี้ขึ้น ซึ่งได้เปิดอย่างเป็นทางการครั้งแรกในวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 1977 โดยมีประธานาธิบดีวาเลรี ฌิสการ์ แด็สแต็ง เป็นประธานเปิด ข้อมูลในปี ค.ศ. 2006 พิพิธภัณฑ์ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1977 มาแล้วมากกว่า 180 ล้านคน และมากกว่า 5,209,678 คนในปี ค.ศ. 2013 เพียงปีเดียว
พิพิธภัณฑ์เป็นที่รู้จักในเรื่องของการออกแบบที่นำเสนอโครงสร้างภายในล้วน ๆ ทั้งโครงเหล็ก คอนกรีตเสริมเหล็ก แม้กระทั่งพวกท่อต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นการออกแบบที่แตกต่างมากในขณะนั้น ที่โดยปกติแล้วจะปกปิดไม่ให้เห็นโครงสร้าง การออกแบบได้รับคำชื่มชมจากหลายส่วนทั้งจากสื่อมวลชนอย่างเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก, เดอะนิวยอร์กไทมส์ เป็นต้น
สำหรับประติมากรรม ฮอริซอนทัล (Horizontal) ซึ่งเป็นประติมากรรมจลดุลสูงกว่า 25 ฟุต (7.6 เมตร) สร้างสรรค์ขึ้นโดยอเล็กซานเดอร์ คาลเดอร์ ซึ่งได้นำมาตั้งไว้ในปี ค.ศ. 2012 หน้าพิพิธภัณฑ์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น